ไขปัญหาภาษี BOI
1. คำถาม : บริษัทได้รับส่งเสริมการลงทุน เมื่อบริษัทนำเข้าเครื่องจักรราคา 1 ล้านบาท มาจากต่างประเทศโดยไม่เสียอากรขาเข้าและ ไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยวางเงินประกันไว้ใน ปีที่ 1 ของการก่อสร้างโรงงาน และเครื่องจักรได้ถูกติดตั้งในช่วงการก่อสร้างโรงงาน แต่ในปีที่ 2 ของการก่อสร้าง เครื่องจักรดังกล่าวถูกไฟไหม้เสียหายเหลือเป็นซากใช้งานไม่ได้ บริษัทเปิดประมูลซากได้ 1 หมื่นบาท แต่ยังไม่ขายออกไป และได้ขออนุมัติตัดรายชื่อเครื่องจักรออกจากการส่งเสริมการลงทุน
1. บริษัทมีภาระภาษีมูลค่าเพิ่มขานำเข้าตามราคานำเข้า 1 ล้านบาทหรือตามราคาซาก 1 หมื่นบาท
2. เมื่อจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มนำเข้าตามข้อ 1 จะถือเป็นภาษีของเดือนที่นำเข้า ซึ่งต้องเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม หรือของเดือนที่จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มให้ศุลกากร ซึ่งเป็นเดือนปัจจุบัน
3. ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จ่ายกรมศุลกากร บริษัทสามารถนำมาเป็นภาษีซื้อในเดือนที่จ่ายใช่หรือไม่
4. เมื่อขายเศษซากไป จะต้องออกใบกำกับภาษีและนำส่งในเดือนที่ขายใช่หรือไม่
5. หากเศษซากที่จะขาย ได้รับยกเว้นอากรตามกฎหมายพิกัดอัตราศุลกากร คือไม่ต้องเสียอากรนำเข้า บริษัทยังต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มนำเข้าหรือไม่
คำตอบ : 1. บริษัทต้องชำระภาษี-มูลค่าเพิ่มจากฐานภาษีขณะนำเข้า 1 ล้านบาท เนื่องจากไม่เข้าลักษณะเป็นเครื่องจักรที่นำมาใช้ในกิจการ BOI แล้ว
2. และ 3. ต้องถือเป็นภาษีซื้อของเดือนที่นำเข้า และต้องมีเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
4. จะต้องออกใบกำกับภาษีและนำส่งในเดือนที่ขายถูกต้องแล้ว
5. หากเป็นกรณีได้รับยกเว้นอากรตามภาค 4 ของกฎหมายพิกัดอัตราศุลกากร บริษัทได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสินค้า
2. คำถาม : กรณีขายเศษวัสดุ เช่น กล่องหรือบรรจุภัณฑ์ที่เกิดจากการนำเข้าวัตถุดิบ จะ ถือว่าเป็นรายได้ของกิจการ Non-BOI ใช่หรือไม่
คำตอบ : ถือเป็นรายได้ของกิจการ Non-BOI
3. คำถาม : กิจการได้รับส่งเสริมการลงทุนประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกิน 25% จะต้องเสียเงินเพิ่มจากกิจการ Non-BOI หรือจากยอดรวมทั้งหมด
คำตอบ : กรณีกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน ประกอบกิจการทั้งประเภท BOI และ Non-BOI หากประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินร้อยละ 25 จะต้องเสียเงินเพิ่มจากประมาณการของกิจการ Non-BOI
4. คำถาม : บริษัทเป็นกิจการ SMEs ได้รับส่งเสริมการลงทุน ในการประกอบการ ดังต่อไปนี้จะต้องเสียภาษีหรือไม่ อย่างไร
กิจการ BOI กำไร 200,000 บาท
กิจการ Non-BOI กำไร 70,000 บาท
คำตอบ : ไม่ต้องเสียภาษีแต่อย่างใดหากบริษัทเป็นกิจการ SMEs มีทุนจดทะเบียน ที่ชำระแล้ว ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท
5. คำถาม : 1. เงินได้จากการขายแม่พิมพ์สำหรับกิจการได้รับส่งเสริมการลงทุน ถือเป็นรายได้ของกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน หรือไม่
2. ดอกเบี้ยรับเงินฝากออมทรัพย์ที่ใช้ถอนเงินแบบระบบอัตโนมัติจากออมทรัพย์ไปยังกระแสรายวันถือเป็นดอกเบี้ยของ BOI หรือไม่
คำตอบ : 1. รายได้จากการขายแม่พิมพ์ที่ใช้ในการประกอบกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนและหมดสภาพหรือไม่เหมาะสมที่จะใช้งานต่อไป ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและกรมสรรพากรแล้ว ถือเป็นรายได้ BOI
2. ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ถือ เป็นรายได้ที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน ในจำนวน ไม่เกินร้อยละ 2 ของรายได้ BOI นั้น จำกัดเฉพาะรายได้ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เท่านั้น ไม่รวมถึงบัญชีออมทรัพย์ที่ผูกติดกับบัญชีกระแสรายวัน
6. คำถาม : 1. กิจการได้รับส่งเสริมการลงทุน และได้พ้นกำหนดเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้ในปี 2551 กิจการมีการจ่ายเงินปันผลในปี 2552 ในส่วนของกิจการ BOI จะต้องหักภาษีเงินได้หรือไม่ หากหักไว้ 10% ผู้มีเงินได้สามารถนำไปเครดิตภาษีได้หรือไม่
2. กรณีจ่ายเงินปันผลโดยการเพิ่มทุนหลังหมด BOI ต้องหักไว้ 10% หรือไม่
3. เมื่อหมด BOI เงินปันผลไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ต้องหัก ณ ที่จ่าย ใช่หรือไม่
คำตอบ : กรณีหมด BOI แล้วมาจ่ายเงินปันผลหรือเพิ่มทุน กรณีถือว่าไม่ได้รับยกเว้นภาษีเนื่องจากเป็นการจ่ายเงินปันผลภายหลังจากที่พ้นกำหนดเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกิจการ BOI แล้ว ดังนั้น บริษัทที่จ่ายเงินปันผลมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา 10% โดยผู้รับเงินปันผลที่เป็นบุคคลธรรมดามีสิทธินำภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายที่ถูกหักไว้ในอัตราร้อยละ 10 นั้น ไปหักจากภาษีเงินได้ที่ต้องเสีย ในการคำนวณภาษีเงินได้ประจำปีได้ แต่จะไม่ได้เครดิตภาษีเงินปันผลเพราะเป็นเงินปันผลที่บริษัท BOI ไม่ได้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
7. คำถาม : 1. กิจการได้รับส่งเสริมการลงทุน ซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการที่อยู่ใน Free zone ต้องถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
2. กิจการได้รับส่งเสริมการลงทุน ขายสินค้าให้ผู้ประกอบการที่อยู่ใน Free zone ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
คำตอบ : 1. กรณีกิจการ BOI ซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการจดทะเบียนที่อยู่ในเขต Free zone หากกิจการ BOI เป็นผู้ยื่นใบขนขา เข้าเอง จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40)ฯ คือ ผู้ประกอบการที่อยู่ใน Free zone ไม่ต้องนำมูลค่าของสินค้าที่ขายให้กิจการ BOI มาถือเป็นฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่หากผู้ประกอบการใน Free zone เป็นผู้ยื่นใบขนขาเข้าแล้ว กิจการ BOI จะต้องเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ขายจึงจะไม่ต้องนำมูลค่าของสินค้าที่ขายมาถือเป็นมูลค่าของฐานภาษี
2. กรณีกิจการ BOI ขายสินค้าให้ ผู้ประกอบการที่อยู่ใน Free zone เข้าลักษณะเป็นการส่งออกสินค้า ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0
8. คำถาม : กรณีตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ฉบับที่ 38/2552 ถ้ามีภาษีที่ต้องเสียแต่ไม่ได้เสีย จะต้องมีเงินเพิ่มเบี้ยปรับหรือไม่
คำตอบ : หากมีภาษีที่ต้องเสียแต่ไม่ได้เสีย จะต้องเสียเงินเพิ่ม และหากถูกเจ้าพนักงานประเมินทำการประเมินเรียกเก็บภาษีจะถูกเรียกเก็บเบี้ยปรับด้วย
9. คำถาม : บริษัทได้รับส่งเสริมการลงทุน จำนวน 3 โครงการ โครงการที่ 1 และ 2 พ้นกำหนดเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี แล้ว ส่วนโครงการที่ 3 ยังอยู่ระหว่างการได้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี บริษัทจ่ายเงินปันผลของโครงการที่ 3 บางส่วนก่อนได้หรือไม่ โดยไม่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายร้อยละ 10
คำตอบ : กรณีกิจการมีกำไรก็สามารถจ่ายเงินปันผลได้ ซึ่งหากเป็นการจ่ายเงินปันผลในระหว่างระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกิจการที่ได้ BOI บริษัทไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย เพราะเป็นเงินปันผลที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
10. คำถาม : กรณีบริษัทถูกเพิกถอนสิทธิประโยชน์ BOI ย้อนหลัง ในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่มจะเสียเบี้ยปรับเงินเพิ่มอย่างไร
คำตอบ : หากถูกเพิกถอนสิทธิประโยชน์โดยให้มีผลย้อนหลัง บริษัทจะไม่ได้สิทธิการวางประกันภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าเครื่องจักรหรือวัตถุดิบที่นำเข้ามาผลิตเพื่อส่งออกตามโครงการที่ได้ BOI ตามมาตรา 83/8 แห่งประมวลรัษฎากร โดยจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มพร้อมเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนตั้งแต่เดือนที่นำเข้าเครื่องจักรหรือวัตถุดิบนั้น
11. คำถาม : กรณีบริษัทโอนบัตรส่งเสริม BOI โดยได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และบริษัทมีผลขาดทุนสะสม BOI คงเหลือ จะใช้ผลขาดทุนดังกล่าวได้ 5 ปีนับจากวันโอนสิทธิ ถูกต้องหรือไม่
คำตอบ : ถูกต้องแล้ว
12. คำถาม : บริษัทฯ ได้รับ BOI 3 บัตร โดยบัตร 1 ยกเว้นภาษีเงินได้ 3 ปี บัตร 2 ยกเว้นภาษีเงินได้ 5 ปี และบัตร 3 ยกเว้นภาษีเงินได้ 8 ปี จะนำขาดทุนสะสมในปีที่ 4 จากยอดใดมาหักได้
คำตอบ : บริษัทมีสิทธินำผลขาดทุนสะสมจากช่องรวม (ช่องสุดท้าย) สำหรับปีที่ 1 จำนวน 10 มาหักออกจากกำไรของบัตรที่ 1 ในปีที่ 4 จำนวน 30 ได้ คงเหลือกำไรที่ต้องชำระภาษีจำนวน 20
13. คำถาม : 1. บริษัทได้รับบัตรส่งเสริม 1 ใบ แต่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษี 2 โครงการ โครงการที่ 1 ยกเว้นภาษี 7 ปี โครงการที่ 2 ได้รับยกเว้นภาษี 8 ปี วันเริ่มมีรายได้จะแยกนับ หรือนับวันที่โครงการใดโครงการหนึ่งเริ่มมีรายได้
2. กำลังการผลิตในบัตรส่งเสริมให้ต่อปีไม่เกิน 1 ล้าน 2 แสนชิ้นต่อปี จะเริ่มนับวันแรกเมื่อใดระหว่าง
• วันที่ได้รับอนุมัติบัตรส่งเสริม
• วันที่เริ่มมีรายได้
• วันเริ่มรอบระยะเวลาบัญชี
• วันที่มีการผลิต แต่ยังมิได้ขาย
คำตอบ : 1.ให้เริ่มนับแยกแต่ละโครงการว่าเริ่มมีรายได้เมื่อใด
2. วันแรกเริ่มนับเมื่อวันที่เริ่มมีรายได้
14. คำถาม : ค่าขนส่งที่สามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า ครอบคลุมอะไรบ้าง
คำตอบ : หมายถึงเฉพาะค่าขนส่งสินค้าและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าที่ได้ BOI และต้องเป็นค่าขนส่งในประเทศเท่านั้น
15. คำถาม : บริษัทมีรอบระยะเวลาบัญชี 1 พฤศจิกายน – 31 ตุลาคม พ้นกำหนดเวลาการยกเว้นภาษีตามบัตรส่งเสริมฯ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2547 มีผลขาดทุนสะสมจากกิจการ ที่ได้ส่งเสริมการลงทุนถึงปีปัจจุบัน ซึ่งผลขาดทุนครบ 5 ปี ในวันที่ 31 มีนาคม 2552 ดังนี้ ในรอบระยะเวลาบัญชี 1 พฤศจิกายน 2551 ถึง 31 ตุลาคม 2552 บริษัทต้องยื่นงบ 2 ช่วงหรือไม่ (ช่วงแรกได้รับส่งเสริม ช่วงหลังเป็นปกติ) และจะนำผลขาดทุนไปใช้อย่างไร
คำตอบ : เนื่องจากผลขาดทุนจากกิจการ BOI ได้ครบกำหนด 5 ปีนับจากพ้นระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในวันที่ 31 มีนาคม 2552 ดังนั้นในรอบระยะเวลาบัญชี 1 พฤศจิกายน 2551 ถึง 31 ตุลาคม 2552 ซึ่งบริษัทจะต้องคำนวณกำไรสุทธิเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี บริษัทจึงไม่มีสิทธินำผลขาดทุนจากกิจการ BOI ซึ่งพ้นกำหนด 5 ปีแล้วมาใช้