รูปแบบบัญชีและรายงาน
ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร เป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543 แต่ประมวลรัษฎากรได้บัญญัติให้ผู้ประกอบการบางประเภทไม่ว่าจะประกอบการในรูปของบุคคลธรรมดา บริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นใด มีหน้าที่จัดทำบัญชีพิเศษเพิ่มเติม นอกเหนือจากบัญชีที่ต้องจัดทำตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชี
บัญชีพิเศษและรายงานตามประมวลรัษฎากร
1. บัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่ายและการนำส่ง เพื่อให้ผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายได้บันทึกรายการภาษีหัก ณ ที่จ่ายไว้เพื่อป้องกันการหลงลืมที่จะนำส่งภาษีดังกล่าว และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ที่จะทำการตรวจสอบ
2. บัญชีพิเศษสำหรับกิจการโรงสีขนาดเล็ก เพื่อให้ผู้ที่ไม่มีหน้าที่จัดทำรายงานการค้าข้าวประจำวันตามกฎหมายว่าด้วยการค้าข้าวของกระทรวงพาณิชย์ได้มีบัญชีคุมสินค้าสำหรับกิจการโรงสีขนาดเล็ก ได้แก่ ผู้ประกอบกิจการโรงสีข้าวที่มีกำลังการผลิตต่ำกว่า 5 เมตริกตันต่อ 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะใช้เครื่องสีข้าวเครื่องเดียวหรือหลายเครื่องก็ตาม จึงมีบัญชีพิเศษที่ต้องจัดทำดังนี้
- บัญชีรับข้าวเปลือกจากผู้ว่าจ้างสีข้าว
- บัญชีรับจ่ายผลิตภัณฑ์และวัตถุพลอยได้จากการสีข้าว
3. บัญชีพิเศษสำหรับกิจการสถานพยาบาลที่มีเตียงรับผู้ป่วยไว้ค้างคืน เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลที่มีเตียงรับผู้ป่วยไว้ค้างคืน เช่น โรงพยาบาลเอกชน โพลีคลินิก หรือสถานพยาบาลอื่น จัดทำบัญชีพิเศษนี้เพื่อแสดงรายการจ่ายเงินให้แก่ผู้ประกอบโรคศิลปะ เพื่อใช้ตรวจสอบรายได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ ของผู้ประกอบโรคศิลปะ
4. บัญชีพิเศษสำหรับกิจการค้าของเก่าประเภทรถยนต์ เพื่อแสดงรายการรถยนต์เก่าที่มีอยู่ ได้มา หรือ จำหน่ายไปแต่ละครั้ง ไม่ว่ารถยนต์นั้น ได้ซื้อมาขาย หรือขายแทนผู้อื่น และใช้เป็นเครื่องมือในการพิสูจน์รายได้จากการประกอบกิจการและควบคุมการมิให้มีการค้ารถยนต์เก่าโดยไม่สุจริต
5. บัญชีพิเศษสำหรับผู้ผลิตหรือผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ซีดี เพื่อแสดงรายการผลิตหรือรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ซีดี และเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บและตรวจสอบภาษีอากร และป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์การผลิตซีดี
6. บัญชีงบดุล บัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุน เป็นบัญชีการเงิน ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิซึ่งต้องจัดทำตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชีเป็นปกติอยู่แล้ว เพื่อแสดงฐานะการเงินและผลการประกอบกิจการ แต่ผู้ประกอบการต้องทำการปรับปรุงกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิทางบัญชีหรือทางการเงิน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิทางภาษีอากร ตามมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลแนบบัญชีงบดุล บัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุนไปพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ด้วย
7. บัญชีรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศและเข้ามาประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศในประเทศไทย และมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานรายได้จากการประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศ โดยคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 3 ของค่าโดยสาร ค่าธรรมเนียม หรือประโยชน์อื่น ที่เรียกเก็บในประเทศไทยเนื่องจากการขนส่งคนโดยสาร หรือร้อยละ 3 ของค่าระวาง ค่าธรรมเนียม หรือประโยชน์อื่นใด ที่เรียกเก็บไม่ว่าในประเทศไทยหรือต่างประเทศ เนื่องจากการขนส่งสินค้าออกจากประเทศไทย
8. รายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 87 แห่งประมวลรัษฎากรได้กำหนดให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจัดทำรายงานเป็นพิเศษเพื่อควบคุมการจัดเก็บและสอบยันกับแบบแสดงรายการที่ยื่นเสียภาษีเป็นหลักฐานทางทะเบียนรายละเอียดประกอบแบบแสดงรายการภาษี โดยต้องจัดทำเป็นรายสถานประกอบการ ซึ่งมีรายงานดังนี้
• รายงานภาษีขาย เป็นรายงานแสดงมูลค่าสินค้าหรือบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้ออกใบกำกับภาษีจากการขายสินค้าหรือให้บริการนั้นๆ ทั้งนี้รายงานภาษีขายต้องมีรายการและข้อความตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด
(ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 89) ลงวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2542 )
รายงานภาษีขายของผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการจำหน่ายทองรูปพรรณ ที่ขอเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากส่วนต่างมีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานภาษีขายเป็นกรณีพิเศษด้วย โดยต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามที่อธิบดีกำหนด
• รายงานภาษีซื้อ เป็นรายงานแสดงมูลค่าสินค้าหรือบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้ซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียนอื่น ทั้งนี้รายงานภาษีซื้อต้องมีรายการและข้อความตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด
(ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 89) ลงวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2542 )
• รายงานสินค้าและวัตถุดิบ สำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการขายสินค้า และประกอบกิจการผลิตสินค้าเพื่อขาย ผู้ประกอบการผลิตสินค้าเพื่อขายนั้นต้องจัดทำทั้งรายงานวัตถุดิบ รายงานสินค้าสำเร็จรูป และรายงานสินค้าระหว่างผลิต (เฉพาะ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี) ซึ่งต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด
(ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 89) ลงวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2542 )
รายงานการจ่ายอะไหล่โดยไม่คิดมูลค่า ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขายสินค้าโดยมีการรับประกันสินค้าที่ขายหรือบริการซ่อมสินค้าที่ขาย กรณีมีการชำรุดบกพร่องหรือเพื่อเหตุอื่นอันมีลักษณะทำนองเดียวกัน ต้องจัดทำรายงานจ่ายอะไหล่โดยไม่คิดมูลค่าเพื่อใช้ประกันสินค้าที่ขายหรือบริการซ่อมสินค้าที่ขายแยกต่างหากจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ
บัญชีแสดงรายการสินค้าที่ครอบครอง
- ผู้ประกอบกิจการโรงเลื่อย โรงค้าไม้แปรรูป
- ผู้ประกอบกิจการค้าของเก่า
- ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร
แบบรายละเอียดสินค้าคงเหลือ สำหรับบุคคลธรรมดาผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้รับยกเว้นไม่ต้องจัดทำรายงานสินค้าและวัตถุดิบ แต่ต้องทำการตรวจนับสินค้าคงเหลือ ณ วันที่ 30 มิถุนายน และวันที่ 31 ธันวาคม ของปี และกรอกรายการสินค้าคงเหลือในแบบรายละเอียดสินค้าคงเหลือ และให้ถือว่าแบบรายละเอียดสินค้าคงเหลือเป็นรายงานสินค้าและวัตถุดิบ สำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการ โรงเลื่อย โรงค้าไม้แปรรูป กิจการค้าของเก่า ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร และกิจการปิโตรเลียม ให้ใช้บัญชีแสดงรายการสินค้าที่ครอบครองตามกฎหมายนั้นๆ เป็นรายงานสินค้าและวัตถุดิบ
(ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 104) เรื่อง กำหนดให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดทำรายงานแตกต่างไปจากรายงานตามมาตรา 87 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2543)
การจัดทำรายงานรวมสำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ได้รับอนุมัติให้จัดทำรายงานรวมกันกับสำนักงานใหญ่ กรณีที่เป็นผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการซึ่งนอกจากมีสถานประกอบการที่เป็นสำนักงานใหญ่แล้ว ยังมีสถานประกอบการอื่นอีกหลายแห่งที่มีลักษณะเป็นรถเข็น แผงลอย หน่วยขายที่มีลักษณะเป็นร้านค้าย่อย หรือที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน และประกอบกิจการอยู่เป็นประจำในสถานที่เช่า สามารถจัดทำรายงานภาษีขาย , รายงานภาษีซื้อ , รายงานสินค้าและวัตถุดิบ โดยจัดทำรวมกันกับสำนักงานใหญ่เพียงรายงานฉบับเดียว ซึ่งรวบรวมการขายสินค้าหรือการให้บริการซื้อสินค้าหรือการรับบริการและการรับหรือจ่ายสินค้าหรือวัตถุดิบของสถานประกอบการที่เป็นสำนักงานใหญ่ และสถานประกอบการแห่งอื่น โดยต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด และต้องเก็บรักษาไว้ ณ สถานประกอบการที่เป็นสำนักงานใหญ่
9. รายงานภาษีธุรกิจเฉพาะ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะมีหน้าที่จัดทำรายงานแสดงรายรับก่อนหักรายจ่ายที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะและรายรับที่ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยต้องจัดทำเป็นรายสถานประกอบการ ปัจจุบันไม่ได้กำหนดรูปแบบรายงานแสดงรายรับก่อนหักรายจ่ายให้ผู้ประกอบการปฏิบัติแต่อย่างใด
10. รายงานเงินสดรับ - จ่าย ผู้ประกอบการที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และมิได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) (6) (7) และ (8) แห่งประมวลรัษฎากร จัดทำบัญชีหรือรายงานแสดงรายได้และรายจ่ายเป็นประจำวัน เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีอากรและเพื่อให้ผู้ประกอบการทราบถึงรายได้ รายจ่าย ผลกำไร ขาดทุน และใช้เป็นหลักฐานในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
ตารางสรุปบัญชีพิเศษและรายงานตามประมวลรัษฎากร
กรณีผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
ผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล อาจจะประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพียงอย่างเดียว หรือต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ นอกเหนือจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทกิจการของผู้ประกอบการ สำหรับบัญชีพิเศษและรายงานที่ต้องจัดทำตามประมวลรัษฎากรกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และกรณีที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น สรุปได้ดังนี้
ผู้ประกอบการที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม |
ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม |
1. รายงานเงินสดรับ - จ่าย 2. บัญชีแสดงสินค้าที่ครอบครอง กรณีเป็นผู้ประกอบ กิจการค้าของเก่า 3. บัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่ง 4. บัญชีพิเศษเฉพาะกิจการ -โรงสีขนาดเล็ก - กิจการสถานพยาบาลที่มีเตียงผู้ป่วยไว้ค้างคืน - กิจการค้าของเก่าประเภทรถยนต์ - ผู้ผลิตหรือผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ซีดี 5. รายงานภาษีธุรกิจเฉพาะ (กรณีจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ) |
1. รายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม - รายงานภาษีขาย - รายงานภาษีซื้อ - รายละเอียดสินค้าคงเหลือ ณ วันที่ 30 มิถุนายน และวันที่31 ธันวาคม - บัญชีแสดงสินค้าที่ครอบครอง กรณีเป็นผู้ประกอบ กิจการโรงเลื่อย โรงค้าไม้แปรรูป กิจการค้าของเก่า 2. บัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่ง 3. บัญชีพิเศษเฉพาะกิจการ - กิจการค้าของเก่าประเภทรถยนต์ - ผู้ผลิตหรือผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ซีดี 4. รายงานภาษีธุรกิจเฉพาะ (กรณีจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ) |
ตารางสรุปบัญชีพิเศษและรายงานตามประมวลรัษฎากร
กรณีผู้ประกอบการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด
ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล กิจการร่วมค้า มูลนิธิสมาคม หรือนิติบุคคลอื่น
ผู้ประกอบการในรูปของห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล กิจการร่วมค้า มูลนิธิสมาคม หรือนิติบุคคลอื่นใด นั้น บัญชีพิเศษและรายงานที่ต้องจัดทำตามประมวลรัษฎากรกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และกรณีที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น สรุปได้ดังนี้
ผู้ประกอบการที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม |
ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม |
1. บัญชีงบดุล บัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุน 2. บัญชีแสดงสินค้าที่ครอบครอง กรณีเป็นผู้ประกอบ กิจการค้าของเก่า 3. บัญชีพิเศษเฉพาะกิจการ -โรงสีขนาดเล็ก - กิจการสถานพยาบาลที่มีเตียงผู้ป่วยไว้ค้างคืน - กิจการค้าของเก่าประเภทรถยนต์ - ผู้ผลิตหรือผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ซีดี 4. บัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่ง 5. รายงานภาษีธุรกิจเฉพาะ (กรณีจดทะเบียนภาษี ธุรกิจเฉพาะ) |
1. รายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม - รายงานภาษีขาย - รายงานภาษีซื้อ - รายงานสินค้าและวัตถุดิบ - รายงานการจ่ายอะไหล่โดยไม่คิดมูลค่า (สำหรับสินค้าที่มีประกัน) - บัญชีแสดงสินค้าที่ครอบครอง กรณีเป็น ผู้ประกอบ กิจการโรงเลื่อย โรงค้าไม้แปรรูป กิจการค้าของเก่าผู้ประกอบการที่ได้รับให้อนุมัติ ให้จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้า ปลอดอากร และกิจการปิโตรเลียม 2. บัญชีงบดุล บัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุน 3. บัญชีพิเศษเฉพาะกิจการ - กิจการค้าของเก่าประเภทรถยนต์ - ผู้ผลิตหรือผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ซีดี 4. บัญชีรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ (เฉพาะนิติบุคคล ต่างประเทศที่เข้ามาประกอบกิจการขนส่งระหว่าง ประเทศในประเทศไทย) 5. บัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่ง 6. รายงานภาษีธุรกิจเฉพาะ (กรณีจดทะเบียนภาษี ธุรกิจเฉพาะ) |